สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
ทรงเยี่ยมชมและตรวจเยี่ยมโรงสีข้าวพระราชทาน พร้อมทั้งบรรจุข้าวสารลงกระสอบ
ที่โรงสีข้าวพระราชทาน ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่อำเภอท่าวังผา
จังหวัดน่าน
เมื่อวันที่
๑๙ มกราคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๓.๐๐ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินงานโรงสี
ข้าวพระราชทาน บ้านห้วยเดื่อ ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา ซึ่งเมื่อปี ๒๕๔๙
ตำบลศรีภูมิ ประสบอุทกภัยหนัก
ราษฎรไม่มีข้าวบริโภค และเมล็ดพันธุ์สำหรับเพาะปลูก จึงมีพระราชดำริให้กองงานในพระองค์ฯ
จัดตั้งกองทุน
ข้าวพระราชทานขึ้นที่บ้านดอนมูล และใกล้เคียง เพื่อให้มีระบบหมุนเวียนข้าว โดยพระราชทานข้าวเปลือก
เริ่มต้นกองทุนให้เกษตรกรยืมไปใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ เมื่อเก็บเกี่ยวได้ค่อยนำข้าวเปลือกมาคืน
พร้อมดอกเบี้ยใน
อัตรา ๑ ถังต่อ ๑ กิโลกรัม และได้ขยายผลจนครบทั้ง ๑๒ หมู่บ้าน
จากนั้น
ได้พระราชทานโรงสีข้าว ลานตากข้าวและยุ้งฉางเก็บข้าวที่บ้านห้วยเดื่อเพื่อสนับสนุนกองทุน
ข้าวพระราชทาน ซึ่งราษฎรอำเภอท่าวังผาได้ร่วมกันจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวพระราชทานจังหวัด
น่านขึ้น โดยนำรูปแบบและวิธีการสหกรณ์มาปรับใช้ นอกจากนี้
ยังมีกองทุนปุ๋ยพระราชทาน เพื่อให้เกษตรกร
ซื้อปุ๋ยคุณภาพดีในราคาถูก และมีเงินกลับมาหมุนเวียน ส่งผลให้สมาชิกได้ผลผลิตข้าวสูงกว่าเดิมเกือบเท่าตัว
มีรายได้เพิ่มขึ้น เกษตรกรจึงสนใจเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก โดยสมาชิกสามารถผลิตพันธุ์ข้าวที่มี
คุณภาพเก็บสำรองไว้สำหรับฤดูการผลิตต่อๆ ไปได้เอง รวมทั้งสร้างรายได้
และอาชีพเสริมจากการแปรรูป
ผลิตภัณฑ์ โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแปรรูปข้าวจากโรงสีข้าวพระราชทาน, ระบบการทำงานของห้อง
เครื่องจักร และยุ้งฉางเก็บข้าวเปลือก
จากการเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชน
เมื่อปีที่แล้ว มีพระ
ราชประสงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางเพิ่มผลผลิตข้าว ส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์
ซึ่งขณะนี้มีพื้นที่
เพาะปลูก ๑,๒๐๐ไร่ ข้าวปลอดภัย
๒๐๐ ไร่ ส่งเสริมการปลูกปอเทืองเป็นปุ๋ยพืชสด
และปลูกพืชหลังนา เพื่อ
เพิ่มรายได้ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาเมล็ดพันธุ์
พร้อมให้ความรู้เรื่องการปลูก การดูแล การเก็บเกี่ยว
และการป้องกันโรคระบาด นอกจากนี้ยังทรงให้ทดลองปลูกหม่อนผล ซึ่งขณะนี้แปลงทดลองให้ผลผลิตดี
นำไปแปรรูปเป็นน้ำหม่อน และจะได้ขยายผลไปยังสมาชิก รวมทั้งทรงให้ฟื้นฟูการปลูกหวายและไผ่เพื่อนำมา
จักสาน ด้วยทรงเห็นว่าในอดีตท่าวังผาเคยมีผลิตภัณฑ์จักสานที่ขึ้นชื่อ ส่วนแนวพระราชดำริด้านการจัดหา
แหล่งน้ำ พร้อมระบบส่งน้ำเพื่อการเกษตรนั้น กรมชลประทานได้ปรับปรุงระบบฝายลำน้ำย่าง
และโครงการ
สูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านม่วง พร้อมก่อสร้างฝายเพิ่ม
ซึ่งจะแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่ได้ ก่อนเสด็จพระราช
ดำเนินกลับทรงเยี่ยมสมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ ที่มารอเฝ้ารับเสด็จ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรม
ราชกุมารี มีพระราชประสงค์ให้วิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ เติบโตต่อยอดเป็นสหกรณ์ในอนาคต เพื่อให้มีความ
คล่องตัวในการบริหารงานและได้รับการดูแลช่วยเหลือจากรัฐได้มากขึ้น